Q&A

คำถามที่พบบ่อย

Faq

ถาม-ตอบ (Q&A) คลายปัญหา/ข้อสงสัย !

คลินิกเสริมความงาม V Clinic by Dr.Fang

เชื่อว่าหลายคนมักมีคำถามมากมาย ก่อนตัดสินใจเลือกวิธีปรับรูปหน้าในรูปแบบต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น การร้อยไหม การฉีดฟิลเลอร์ การฉีดกระชับรูปหน้า และอื่น ๆ อีกมากมาย เพราะกังวลว่า หากทำแล้วจะได้ผลลัพธ์ที่ดีและประสิทธิภาพหรือไม่ จะส่งผลเสียใด ๆ ต่อร่างกายหรือมีอันตรายมากน้อยแค่ไหน การปรับรูปหน้าด้วยวิธีการแต่ละแบบมีความแตกต่างกันอย่างไร คงสภาพอยู่หลังทำเสร็จได้นานแค่ไหน เราได้รวบรวมคำถามเกี่ยวกับการร้อยไหม การฉีดฟิลเลอร์ การลดเรือนริ้วรอยและสลายไขมันด้วยเครื่อง Ultraformer III ที่มาพร้อมคำตอบจากทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของคลินิก เพื่อคลายข้อสงสัยและลดความกังวลต่าง ๆ ไว้ที่นี่หมดแล้ว จะมีอะไรบ้างนั้น เราไปดูพร้อมกันเลยค่ะ

Faq

คำถามยอดฮิตเกี่ยวกับการร้อยไหม (Thread Lift)

การร้อยไหม นับเป็นหัตถการที่ต้องอาศัยเทคนิคเฉพาะและความชำนาญขั้นสูงของแพทย์ ต้องใช้วิธีร้อยไหมที่ถูกต้อง และต้องเป็นไหมที่ผ่านการรับรองจาก อย. จึงจะได้ผลลัพธ์ที่ดี ปลอดภัย และไม่เป็นอันตราย

การร้อยไหมให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ต้องอาศัยเทคนิคเฉพาะและความชำนาญของแพทย์ การร้อยไหมเป็นหัตถการที่ทำแล้วเห็นผลลัพธ์ทันที หากไม่เห็นผล อาจเกิดเพราะความไม่ชำนาญหรือขาดประสบการณ์ของตัวแพทย์เอง เช่น การร้อยไหมผิดชั้นผิว แบบนี้จะไม่เห็นผลลัพธ์ใด ๆ เลย ความยากของการร้อยไหม คือ การวิเคราะห์และเลือกใช้เทคนิคให้เหมาะกับใบหน้าของคนไข้แต่ละคน ซึ่งต้องใช้ความชำนาญและทักษะเฉพาะตัวในระดับที่สูงมาก

ที่ V Clinic เรามีทีมแพทย์ที่ชำนาญด้านกายวิภาค เชี่ยวชาญการวิเคราะห์ใบหน้าและทักษะการร้อยไหม จนได้รับรางวัลอันดับ 1 ของประเทศไทยด้านการร้อยไหมอิตาลี ติดต่อกันถึง 4 ปีซ้อน (ปี 2019 – 2022)

ความเจ็บสำหรับการร้อยไหมจะแปรตามจำนวนเส้นไหมและเทคนิคการร้อยของแพทย์ ที่หลายคนบอกเจ็บน้อย เช่น ที่ V Clinic ทีมแพทย์จะใช้จำนวนเส้นไหมน้อย เรียกได้ว่า ใช้เพียงแค่ 2 เส้นต่อใบหน้า ด้วยไหมอิตาลีเป็นไหมชนิดพิเศษ และมีแรงยกสูงถึง 17 นิวตัน จึงทำให้คนไข้รู้สึกเจ็บน้อยกว่า ขณะที่ไหมชนิดอื่น ๆ จะใช้มากกว่า 4 เส้นขึ้นไป

เพราะไหมอิตาลี (Italian Thread) เป็นไหมเพียงชนิดเดียวที่ผ่าน อย. ไทยด้านการยกกระชับใบหน้า ให้ความรู้สึกเจ็บน้อยกว่า กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวได้ดี เป็นไหมละลายที่สามารถสลายไปได้เองตามกาลเวลา จึงไร้พังผืด ที่สำคัญสามารถอยู่นานสูงสุดถึง 2 ปี หลังร้อยไหมแล้ว น่าจะไม่กลับมาหย่อนคล้อยเหมือนเดิม หากเทียบกับไหมชนิดอื่น

ไหมอิตาลีเป็นไหมชนิดพิเศษ ใช้เพียง 2 เส้นได้จริง (ข้างละ 1 เส้น) ก็สามารถเห็นผลทันทีหลังการร้อย และสามารถทนแรงได้สูงถึง 17 นิวตัน (แรงยกของไหมชนิดอื่นจะอยู่ที่ประมาณ 5-6 นิวตัน) ซึ่งเป็นกำลังแรงยกที่เพียงพอ สำหรับผู้ที่มีปัญหาใบหน้าหย่อนคล้อยเยอะ หรือมีคนที่มีอายุมากที่ต้องการยกกระชับใบหน้า

หากคนไข้ต้องการจะร้อยไหมและฉีดกระชับรูปหน้าพร้อมกัน สามารถทำได้ เพราะเป็นการแก้ปัญหาคนละจุดกันค่ะ แต่ถ้าหากเป็นการร้อยยกคิ้ว แล้วต้องการฉีดกระชับรูปหน้าบริเวณใกล้เคียง แพทย์จะไม่แนะนำให้ทำพร้อมกันค่ะ

หลังจากร้อยไหมแล้ว อาจจะพบว่ามีรอยนูนของเส้นไหมบนใบหน้า ซึ่งรอยดังกล่าวจะละลายหรือเนียนหายไปเองตามธรรมชาติ ภายใน 2 สัปดาห์ หลังทำเสร็จ

สำหรับไหมอิตาลี เป็นไหมชนิดพิเศษที่มีความแข็งแรงมาก และเป็นไหมเพียงชนิดเดียวที่ผ่าน อย. ไทย รวมถึงได้รับการยอมรับด้านประสิทธิภาพการยกกระชับใบหน้า กว่า 50 ประเทศทั่วโลก จึงมั่นใจได้ว่าเมื่อได้ลองร้อยไหมอิตาลีแล้ว ไหมจะไม่ขาดอย่างแน่นอน

ข้อปฏิบัติตัว ก่อน ร้อยไหมอิตาลี
  • งดรับประทานอาหารเสริม เช่น วิตามินซี วิตามินอี รวมถึงยาบางชนิด เช่น แอสไพริน NSAIDs อย่างน้อย 1 อาทิตย์ เพื่อป้องกันเลือดออกง่ายและเสี่ยงกับอาการช้ำ

  • 24 ชั่วโมงก่อนร้อยไหม ควรงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และกิจกรรมที่ทำให้เลือดออกง่าย

  • ถ้าต้องทำฟัน ให้ทำฟันก่อนการร้อยไหมหรือหลังจากร้อยไหมแล้ว 1 เดือน เพราะการทำฟันต้องอ้าปากกว้าง อาจจะทำให้ไหมหลุดออกมาได้

ข้อปฏิบัติตัว หลัง ร้อยไหมอิตาลี
  • – ควรรับประทานยาตามแพทย์สั่ง

  • ประคบเย็นลดอาการบวม สำหรับใครที่แผลช้ำ หรือมีอาการบวมมากเป็นพิเศษ ประคบบริเวณที่ร้อยไหมทุก ๆ 4 ชั่วโมง

  • ไม่ควรถูหน้า หรือล้างหน้าแรง ๆ ควรหลีกเลี่ยงการล้างหน้าแบบลูบ หรือถูหน้าแรง ๆ โดยเด็ดขาด เพื่อป้องกันไม่ให้เส้นไหมเคลื่อนตัวหรือบิดเบี้ยว

  • งดกิจกรรมไม่ว่าจะเป็นการทำทรีทเม้นท์ เลเซอร์ นวดหน้า ขัดผิว อบไอน้ำ อบซาวน่า ในช่วง 2 สัปดาห์แรก

  • หลีกเลี่ยงการนอนคว่ำ และการนอนตะแคงก่อน

  • งดอาหารแสลง และตัวยาบางชนิด ได้แก่ อาหารทะเล ของหมักดอง เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และกลุ่มยาแอสไพริน วิตามินอี น้ำมันสกัดบางชนิด ซึ่งมีสรรพคุณทำให้เลือดหยุดไหลช้า และทำให้เกิดแผลฟกช้ำได้ง่าย

หมายเหตุ: หากมีอาการผิดปกติควรรีบกลับมาพบแพทย์ทันที

ข้อปฏิบัติตัว หลัง ร้อยไหมอิตาลี
  • ควรรับประทานยาตามแพทย์สั่ง

  • ประคบเย็นลดอาการบวม สำหรับใครที่แผลช้ำ หรือมีอาการบวมมากเป็นพิเศษ ประคบบริเวณที่ร้อยไหมทุก ๆ 4 ชั่วโมง

  • ไม่ควรถูหน้า หรือล้างหน้าแรง ๆ ควรหลีกเลี่ยงการล้างหน้าแบบลูบ หรือถูหน้าแรง ๆ โดยเด็ดขาด เพื่อป้องกันไม่ให้เส้นไหมเคลื่อนตัวหรือบิดเบี้ยว

  • งดกิจกรรมไม่ว่าจะเป็นการทำทรีทเม้นท์ เลเซอร์ นวดหน้า ขัดผิว อบไอน้ำ อบซาวน่า ในช่วง 2 สัปดาห์แรก

  • หลีกเลี่ยงการนอนคว่ำ และการนอนตะแคงก่อน

  • งดอาหารแสลง และตัวยาบางชนิด ได้แก่ อาหารทะเล ของหมักดอง เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และกลุ่มยาแอสไพริน วิตามินอี น้ำมันสกัดบางชนิด ซึ่งมีสรรพคุณทำให้เลือดหยุดไหลช้า และทำให้เกิดแผลฟกช้ำได้ง่าย

หมายเหตุ: หากมีอาการผิดปกติควรรีบกลับมาพบแพทย์ทันที

โปรแกรม OLIGIO คืออะไร?

ปัญหาผิวหย่อนคล้อย ริ้วรอย และกรอบหน้าไม่ชัดเจน มักเกิดขึ้นตามอายุที่เพิ่มขึ้น รวมถึงปัจจัยภายนอก เช่น แสงแดด มลภาวะ การพักผ่อนไม่เพียงพอและพฤติกรรมการใช้ชีวิต OLIGIO เป็นหนึ่งในเทคโนโลยีใหม่ ที่ช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้อย่างตรงจุด OLIGIO ใช้หลักการ Monopolar Radiofrequency (RF) ส่งพลังงานความร้อนลงไปในชั้นผิวที่ลึกได้อย่างแม่นยำ ความร้อนที่กระจายตัวสม่ำเสมอทำให้คอลลาเจนที่หย่อนคล้อยเกิดการหดตัวทันที และยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ในระยะยาว ทำให้ผิวกระชับขึ้น

โปรแกรม OLIGIO แตกต่างจากเครื่องยกกระชับอื่นๆ อย่างไร?

เครื่องยกกระชับที่นิยมในวงการความงามมีหลายชนิด เช่น HIFU, Ulthera, Thermage ซึ่งแต่ละชนิดมีข้อดีต่างกัน OLIGIO จัดอยู่ในกลุ่ม RF ยกกระชับ ที่มีความโดดเด่นเฉพาะตัวเมื่อเทียบกับ HIFU / Ulthera (Ultrasound): เครื่องเหล่านี้ใช้คลื่นเสียงพลังงานสูงลงไปยังชั้น SMAS (ชั้นพังผืดใต้ผิว) เพื่อยกกระชับ แต่ OLIGIO ใช้พลังงาน RF ที่กระจายความร้อนได้ทั่วและสม่ำเสมอกว่า เหมาะกับการปรับสภาพผิวให้เนียนตึง ไม่เป็นเพียงการดึงยกเฉพาะจุดเมื่อเทียบกับ Thermage (RF รุ่นเก่า) Thermage มีชื่อเสียงเรื่องการยกกระชับด้วย RF เช่นกัน แต่ OLIGIO ถูกพัฒนาต่อยอดให้ ใช้หัวทิปที่ออกแบบใหม่ ทำให้ส่งพลังงานได้แม่นยำ เจ็บน้อยกว่า และสามารถปรับโหมดได้หลากหลาย เหมาะกับหลายสภาพผิวจุดเด่นของ

OLIGIO: มีโหมดการทำงานหลายแบบ (Tightening, Contouring, Body) เจ็บน้อย ไม่จำเป็นต้องพักฟื้น เห็นผลการเปลี่ยนแปลงหลังทำ และดีขึ้นเรื่อย ๆ ภายใน 1–3 เดือน ในราคาที่คุ้มค่ากว่า โดยสามารถใช้จำนวนชอตได้ตามปัญหา ไม่ต้องเหมาหัว

โปรแกรมOLIGIO เจ็บไหม?

การทำ OLIGIO จะให้ความรู้สึก อุ่น ๆ หรือร้อนลึกเล็กน้อย ระหว่างยิงพลังงานลงบนผิว ซึ่งส่วนใหญ่ผู้รับบริการสามารถทนได้โดยไม่ต้องใช้ยาชา ความรู้สึกจะน้อยกว่าเทคโนโลยีบางชนิด เช่น Ulthera หรือ Thermage

โปรแกรม OLIGIO ต้องทำกี่ครั้งถึงเห็นผล?

หลังทำครั้งแรก: จะเห็นผลยกกระชับทันทีประมาณ 20–30%1–3 เดือนหลังทำ: ผิวจะค่อย ๆ กระชับขึ้นจากการสร้างคอลลาเจนใหม่การทำซ้ำ: แนะนำทำทุก 6 เดือน หรือขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการประเมินของแพทย์ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล เช่น อายุ พฤติกรรมการดูแลผิว และการใช้ชีวิตประจำวัน

"การประเมินเเละการออกเเบบการรักษา เเละประสบการณ์ของเเพทย์ที่ทำหัตถการ สำคัญมาก เพื่อผลลัพธ์ที่เต็มประสิทธิภาพ คุ้มค่า เเละปลอดภัย"

โปรแกรม OLIGIO มีกี่โหมด?

OLIGIO ถูกออกแบบมาให้มีโหมดการทำงานหลายแบบ เพื่อตอบโจทย์ปัญหาที่หลากหลาย เช่น

Tightening Mode: กระตุ้นการหดตัวของคอลลาเจน เหมาะกับผู้ที่เริ่มมีริ้วรอยและผิวหย่อนเล็กน้อย

Contouring Mode: ช่วยเก็บกรอบหน้า ลดความหย่อนคล้อยบริเวณแก้มและเหนียง

Body Mode: สำหรับผิวหนังหย่อนคล้อยบริเวณแขน หน้าท้อง

โปรแกรม OLIGIO เหมาะกับใคร?

– ผู้ที่มีผิวหย่อนคล้อยเล็กน้อยถึงปานกลาง

– ผู้ที่ไม่ต้องการผ่าตัดดึงหน้า

– ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่ค่อยเป็นค่อยไป

– ผู้ที่ไม่สะดวกพักฟื้นนาน

โปรแกรม OLIGIO ไม่เหมาะกับใคร?

– ผู้ที่ตั้งครรภ์
– ผู้ที่มีโรคหัวใจและใช้เครื่องกระตุ้นไฟฟ้า (Pacemaker)
– ผู้ที่มีการติดเชื้อผิวหนังหรือผื่นอักเสบในบริเวณที่จะทำ

โปรแกรม OLIGIO ทำร่วมกับเครื่องยกกระชับอื่นๆ ได้ไหม

สามารถทำร่วมกับ HIFU, Ulthera หรือ Thermage ได้ในบางกรณี เช่น ใช้ HIFU ในชั้น SMAS และทำ OLIGIO เพื่อเกลี่ยผิวชั้นไขมันให้กระชับมากขึ้น ทั้งนี้ขึ้นกับการประเมินและวางแผนของแพทย์แต่ละเคส

โปรแกรม OLIGIO ทำบริเวณไหนได้บ้าง?

– ใบหน้า (แก้ม กรอบหน้า ใต้คาง)
– ลำคอ
– แขน
– หน้าท้อง
– ต้นขา

การเลือกบริเวณทำขึ้นอยู่กับสภาพผิวและความกังวลของแต่ละบุคคล

การดูแลตัวเองหลังทำโปรแกรม OLIGIO

สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ทันทีหลีกเลี่ยงการสัมผัสความร้อนจัด เช่น อบซาวน่า อบไอน้ำ ภายใน 24 ชั่วโมงควรใช้ครีมกันแดดเป็นประจำดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อช่วยให้ผิวชุ่มชื้นและสนับสนุนการสร้างคอลลาเจน

V Clinic by Dr.Fang สรุปให้:

โปรแกรม OLIGIO เป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีการยกกระชับที่ใช้ คลื่นวิทยุความถี่สูง (RF) ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและปรับโครงสร้างผิวให้ตึงกระชับขึ้นความโดดเด่นคือสามารถเลือกโหมดการรักษาได้หลายแบบ เจ็บน้อย ไม่ต้องพักฟื้น และให้ผลลัพธ์ต่อเนื่องในระยะยาว การเลือกทำ OLIGIO หรือเครื่องยกกระชับชนิดอื่น ๆ เช่น HIFU, Ulthera, Thermage ขึ้นอยู่กับปัญหาผิว ความต้องการ และการประเมินโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อวางแผนการรักษาที่เหมาะสมที่สุดหากคุณกำลังมองหาการยกกระชับผิวที่ได้ผลชัดเจน ปลอดภัย และไม่ต้องพักฟื้น V Clinic by Dr.Fang พร้อมให้คำปรึกษาโดยแพทย์หลากหลายท่านที่มีประสบการณ์ เพื่อช่วยให้คุณเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะกับตัวเองมากที่สุด

ติดตามเราเพื่อรับข่าวสารและโปรโมชั่น

สามารถเข้ารับบริการได้ทั้ง 6 สาขา

ทองหล่อสุขุมวิทติด Emporium,บางนา, สีลม, เชียงราย และเซ็นทรัลเชียงราย

Faq

คำถามพบบ่อยเกี่ยวกับ การฉีดฟิลเลอร์ (Filler)

จุดที่สามารถฉีดฟีลเลอร์ได้จำนวน CC ที่ใช้
ขมับ2 – 4
หน้าผาก3 – 5
ใต้ตา1 – 2
ร่องแก้ม1 – 3
คาง1- 2
ปาก1- 2
แก้มส้ม2 – 3

รู้หรือไม่? การฉีดฟิลเลอร์นั้นสามารถฉีดได้หลายจุด นอกเหนือจากใบหน้าได้ เช่น ฉีดฟิลเลอร์ลดรอยย่นที่มือ ฉีดฟิลเลอร์ทั่วหน้าเพื่อรักษาหลุมสิว เป็นต้น

การฉีดฟิลเลอร์ควรได้รับการฉีดจากแพทย์ และได้รับการฉีดตรงบริเวณชั้นผิวที่เหมาะสม หากฉีดผิดชั้นผิว หรือเลือกเนื้อฟิลเลอร์ที่ไม่เหมาะกับตำแหน่งที่ฉีด แน่นอนว่าจะส่งผลให้เนื้อฟิลเลอร์เกิดปัญหาเป็นก้อนนูนขึ้นมาแบบเห็นได้ชัดบนใบหน้า

โดยทั่วไปเนื้อฟีลเลอร์จะสามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ 100% เพราะ HA Filler (Hyaluronic Acid) เป็นสารที่มีอยู่แล้วในร่างกายมนุษย์ จึงไม่จำเป็นต้องขูดออก

ที่ V Clinic เราเลือกใช้ HA Filler (Hyaluronic Acid) ซึ่งเป็นสารที่มีอยู่แล้วในร่างกายมนุษย์ อัตราการแพ้จึงน้อยมาก หรือแทบจะไม่มีเลย จึงไม่จำเป็นต้องมีการเทสฟิลเลอร์ก่อนฉีด ทั้งนี้หากพบว่า มีอาการแพ้ฟิลเลอร์เกิดขึ้นจริง แนะนำให้เข้าพบแพทย์เฉพาะทางด้านผิวหนัง เพื่อทำการรักษาเป็นลำดับต่อไปค่ะ

การฉีดฟิลเลอร์ให้เนียนสวยและไม่เป็นก้อน มีปัจจัยที่สำคัญ 2 อย่าง คือ
  • ฝีมือแพทย์ (สำคัญที่สุด) ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของแพทย์ในการเลือกเนื้อฟิลเลอร์ให้เหมาะสมกับตำแหน่งที่ฉีด การเลือกฉีดให้ถูกชั้นผิวถือเป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะหากฉีดผิดหรือฉีดพลาด จะเกิดเป็นก้อนเป็นลำบนใบหน้า หรือขั้นร้ายแรงที่สุด คืออาจทำให้ตาบอดได้

  • ตัวผลิตภัณฑ์หรือคลินิกที่ใช้บริการ ควรตรวจสอบได้ว่าตัวผลิตภัณฑ์หรือยาที่ใช้เป็นของจริงที่ผ่าน อย. และนำเข้ามาอย่างถูกต้อง เพราะหลายครั้งที่พบว่าคนไข้ที่มีปัญหาการฉีดฟิลเลอร์ เกิดจากที่คนไข้ไปใช้บริการคลินิกเถื่อน เจอหมอปลอม ซึ่งมีการใช้ฟิลเลอร์ปลอมเยอะมาก

ที่ V Clinic เรามีทีมแพทย์ฝีมือระดับเทรนเนอร์ที่ได้รับรางวัลการันตีมากมายจากหลายสาขา และรีวิวจำนวนมากจากผู้ใช้บริการจริง และเห็นผลลัพธ์จริง เรากล้าการันตีว่าที่คลินิกของเราใช้ผลิตภัณฑ์หรือยาแท้ สามารถตรวจสอบได้จริง มีหลักฐานการเปิดบิลจากบริษัทแม่โดยตรง

นอกจากราคาต้นทุนฟิลเลอร์แล้ว คลินิกที่มีแพทย์เป็นผู้ทำหัตถการให้จะมีค่าธรรมเนียมบุคลากรทางการแพทย์หรือที่เรียกว่า “ค่ามือหมอ” รวมอยู่ด้วย เพราะการฉีดฟิลเลอร์ให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีนั้น ความรู้ ประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญของแพทย์ในการเลือกเนื้อฟิลเลอร์ให้เหมาะสมกับตำแหน่งที่ฉีด การเลือกฉีดให้ถูกชั้นผิว ถือเป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก

ที่ V Clinic เรามีทีมแพทย์ฝีมือระดับแพทย์ผู้สอนฉีดฟิลเลอร์ของประเทศไทย เป็นผู้ลงมือฉีดฟิลเลอร์ให้ด้วยตนเอง เราจึงกล้าการันตีผลลัพธ์ทุกเคส ความแตกต่างของราคาฟิลเลอร์มักขึ้นอยู่กับความเฉพาะเจาะจงของแต่ละยี่ห้อของฟิลเลอร์ด้วย ยิ่งฟิลเลอร์ที่ใช้มีความเฉพาะเจาะจงสำหรับแต่ละจุดที่ฉีดมากเท่าไหร่ จะทำให้มีความอรรถประโยชน์มากยิ่งขึ้น ส่งผลให้ราคาแพงมากยิ่งขึ้น

อีกปัจจัยที่ควรระวังเมื่อเจอโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ในราคาที่ถูกกว่าปกติ อาจเป็นไปได้ว่า จะเป็นฟิลเลอร์ที่ถูกสร้างขึ้นมาเลียนแบบของแท้ (ฟิลเลอร์ปลอม/ฟิลเลอร์หิ้ว) ซึ่งสาร หรือ ซิลิโคนที่ใช้ อาจไม่สามารถย่อยสลายเองได้ และส่งผลข้างเคียงตามมา และที่สำคัญฟิลเลอร์ปลอม ไม่ผ่านการรับรองมาตรฐานจาก อย. อาจเกิดอันตรายต่อร่างกายหรือบริเวณที่ฉีด เมื่อผลลัพธ์ไม่ดี สุดท้ายอาจต้องขูดออก หรือ ผ่าตัดออก

ฟิลเลอร์แท้ สามารถตรวจสอบได้ตามขั้นตอน ดังนี้
  • 1.แสกน Qr Code หน้ากล่องฟิลเลอร์

  • 2.เช็กเอกสารกำกับภาษาไทยหน้ากล่องฟิลเลอร์ทุกครั้ง

  • 3.เช็กตัวยาหรือฟิลเลอร์ที่หมอแกะให้ดูต่อหน้า

หมายเหตุ: คุณหมอจะอธิบายก่อนแกะฟิลเลอร์ทุกกล่องว่า เป็นฟิลเลอร์ที่ใช้อยู่เป็นฟิลเลอร์ยี่ห้ออะไร รุ่นอะไร เพื่อให้คนไข้มั่นใจและรู้สึกปลอดภัยทุกครั้งก่อนที่จะลงมือทำ หากคนไข้มีคำถามหรือสงสัย สามารถสอบถามคุณหมอได้โดยตรงเลยค่ะ เพราะที่ V Clinic คุณหมอเป็นคนลงมือทำให้ทุกเคสค่ะ

Faq

คำถามพบบ่อยเกี่ยวกับเครื่องยกกระชับและสลายไขมัน Ultraformer III

เครื่อง Ultraformer III มีประโยชน์ ดังนี้
  • ยกคิ้ว

  • ยกกระชับผิวหนังส่วนเกินบริเวณหนังตาบนทำให้ดวงตาดูกลมโตขึ้น

  • กระชับและลดริ้วรอยรอบดวงตา เหนียงใต้ตา (ลดริ้วตื้น ๆ)

  • ยกกระชับแก้มที่หย่อนคล้อยและปัญหาร่องแก้ม

  • ยกมุมปาก

  • ปรับรูปหน้าให้เรียวงามเป็น V shape

  • ยกกระชับผิวหนังที่หย่อนคล้อยบริเวณใต้คาง

  • ยกกระชับผิวหนังบริเวณลำคอ

  • กระชับสัดส่วนบริเวณหน้าอกส่วนบน

  • กระชับสัดส่วนร่างกายและลดขนาดต้นแขน ขา ต้นขา หน้าท้อง นมน้อย ไขมันส่วนเกินบริเวณต่างๆ

  • กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว

การยกกระชับและสลายไขมันด้วยเครื่อง Ultraformer III เหมาะกับผู้ที่
  • มีปัญหาผิวหนังใบหน้าและลำคอ หย่อนคล้อย คิ้วตก หนังตาตก ขอบตาล่างหย่อนยาน แก้มหย่อนคล้อย ร่องแก้มลึก มุมปากตก มีเนื้อใต้คางเป็นชั้นๆ (เหนียง)

  • ต้องการปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้น แบบ V shape โดยที่ไม่ต้องการเข็มและไม่คิดจะทำศัลยกรรมยกกระชับใบหน้า

  • เหมาะกับผู้ที่ต้องการกระชับสัดส่วนในบริเวณหน้าท้อง ต้นแขน ท้องแขน ต้นขา นมน้อย ผิวส่วนเกินบริเวณต่าง ๆ

หมายเหตุ: สำหรับเครื่องลดเรือนริ้วรอยและสลายไขมัน Ultraformer III สามารถใช้ได้กับผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไป จนถึงอายุ 70 ปี

ที่หน้าตาคล้ายกันมากมี 2 รุ่น คือ รุ่น Light และรุ่น Full Option แม้ว่าลักษณะภายนอกของเครื่องมีความคล้ายคลึงกัน แต่ผลลัพธ์ที่ได้กลับแตกต่างกัน ที่ V Clinicราเลือกใช้เครื่องรุ่น Full Option มาพร้อมหัวพิเศษ MF2 ซึ่งพลังงานสูงกว่าเดิมถึง 8 เท่า จึงทำให้คุณภาพในการยกกระชับ สลายไขมัน และสร้างคอลลาเจนที่มากกว่า และสามารถยกกระชับได้ทั้งบริเวณ ใบหน้า (Face) และ ลำตัว (Body) ขณะที่เครื่องรุ่น Light ไม่สามารถทำได้ นอกจากนี้ การทำด้วยเครื่องรุ่น Full Option ยังสามารถอยู่ได้นานกว่า ถึง 1 ปี ในขณะที่รุ่น Light จะอยู่ได้เพียง 6-8 เดือนเท่านั้น

ผลลัพธ์ที่ต่างกัน ขึ้นอยู่องค์ประกอบหลายอย่างทั้งความรู้ ประสบการณ์ เทคนิคเฉพาะทางของแพทย์แต่ละบุคคลในการวางแผนการรักษา การเลือกระดับความลึกของชั้นผิว รวมถึงการเลือกชั้นพลังงานที่เหมาะสมกับคนไข้ เพราะหากเลือกชั้นพลังงานไม่เหมาะสม จะส่งผลให้ใบหน้าไม่ยกกระชับ หรือไม่เห็นผลนั่นเอง

แพทย์จะเป็นผู้วิเคราะห์และประเมินความเหมาะสมของจำนวนช็อตที่ใช้ตามปัญหาของคนไข้แต่ละเคส ส่วนจำนวนช็อตที่ใช้ยิงนั้น สามารถดูได้จากหน้าจอแสดงผลบนเครื่อง ULTRAFORMER III รวมถึงจะมีรายละเอียดกำกับใบเสร็จที่คลินิกจะออกให้ทุกครั้ง คนไข้จึงมั่นใจได้ว่าที่ V Clinic เราใช้จำนวนช็อตที่ยิงจริง

เครื่อง ULTRAFORMER III เป็นเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด New MF2 สำหรับการยกกระชับ สลายไขมันทั้งใบหน้าและลำตัว ลดริ้วรอย โดยไม่ใช้เข็ม มีประสิทธิภาพมากกว่าเครื่องทำ HIFU รุ่นเก่าถึง 8 เท่า และเจ็บน้อยกว่าการทำ Hifu จากเครื่องรุ่นเดิม ๆ

Ultraformer lll เป็นเทคโนโลยีชั้นนำที่มีประสิทธิภาพสูง ยกกระชับด้วยพลังงาน MMFU Micro & Macro Focused Ultrasound ผ่านการรับรองคุณภาพและความปลอดภัยจาก อย. กว่า 50 ประเทศทั่วโลก ทั้งในยุโรป (European CE) ออสเตรเลีย (Australian TGA) ญี่ปุ่น (Japan FDA) ไต้หวัน (Taiwan FDA) เกาหลี (Korea FDA) รวมถึงประเทศไทย และอื่นๆ อีกมากมาย

หากเป็นเครื่อง Ultraformer lll ของแท้ จะสามารถตรวจสอบได้ผ่านเว็บไซต์ของแบรนด์ได้เลย ดังภาพ

Faq

คำถามที่พบบ่อยอื่น ๆ

ร้อยไหม เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหน้าหย่อนคล้อยและต้องการยกกระชับ

ฟิลเลอร์ เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาริ้วรอยร่องลึก ต้องการเติมเต็มหรือแก้ไขจุดต่าง ๆ บนใบหน้า

ฉีดกระชับรูปหน้า เหมาะสำหรับผู้ที่เน้นให้ประสิทธิภาพกับกล้ามเนื้อ ต้องการลดเรือนริ้วรอย ต้องการลิฟหน้าให้เรียว รวมถึงลดขนาดกรามลง

สำหรับคนไข้ที่กลัวเข็ม กลัวเจ็บ การทำหัตถการทุกโปรแกรมสามารถทำได้ โดยที่คลินิกจะวิธีลดอาการเจ็บโดยการทายาชาและการฉีดบล็อคยาชา รวมถึงคุณหมอจะมีการพูดคุยและให้คำปรึกษาเพื่อคลายบรรยากาศตึงเครียดลงได้

ที่ V Clinic คุณหมอให้คำปรึกษาด้วยตัวเอง วิเคราะห์และประเมินโครงหน้าก่อนทำจริงทุกเคส เข้ามาปรึกษาได้เลย แบบไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ

สำหรับการทำโปรแกรมปรับรูปหน้าต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ฉีดฟิลเลอร์ ร้อยไหม ฉีดกระชับรูปหน้า หรือยกกระชับใบหน้า ใบหน้าหลังทำจะไม่แย่ไปกว่าเดิม ยังไงผลลัพธ์ก็จะดูดีกว่าก่อนทำ

ฟิลเลอร์ สามารถคงอยู่ได้นาน สูงสุด 1-2 ปี*

ร้อยไหม สามารถคงอยู่ได้นาน สูงสุด 1-2 ปี*

ฉีดกระชับรูปหน้า สามารถคงอยู่ได้นาน สูงสุด 4-6 เดือน*

Ultraformer III สามารถคงอยู่ได้นาน สูงสุด 1 ปี* (สามารถทำซ้ำได้เมื่อ ครบ 6 เดือน)

*หมายเหตุ: ระยะเวลาการคงสภาพจะขึ้นอยู่กับยี่ห้อและรุ่นที่เลือกใช้